หน้าเว็บ

กำลังดัง!! น้องมันแกว เต้าทะลัก แอดมินเพจ Munkaw Chaos Girl

นอกเรื่องกันหน่อย 5555
น้องมันแกว รุ้งตะวัน ชัยหา สาวสวยเซ็กซี่ เป็นที่โด่งดังในอินเตอร์เน็ต เมื่อโพสต์ภาพแนวเซ็กซี่ จนมีคนติดตามกันอย่างล้นหลาม



โดย น้องมันแกว ทำงานอยู่บริษัท playcybergames จัดรายการเกมส์ออนไลน์ทางเว็บไซต์ ชวนให้คนมาเล่นเกมส์ใหม่ๆ ของทางบริษัท นั่นจึงเป็นช่องทางที่ผู้เล่นได้เห็นโฉมหน้าของเธอ ไม่ว่าจะเป็นภาพเซ็กส์ซี่ และอิริยาบถต่างๆ

การคำนวณ Load เพื่อเลือกเครนในการยก



สำหรับการคำนวณ Load สำหรับการ ยกวัตถุใดๆ ด้วยรถเครน มีความสำคัญมาก ทั้งด้วยเรื่องของความปลอดภัย และราคาในการว่าจ้างรถเครนนั้น แต่ละ ระดับค่อนข้างต่างกันมาก ซึ่งวิธีคำนวณคร่าวๆ นั้น จึงเป็นประโยชน์อย่างมากในการเลือกเช่ารถเครน

Load Chart หรือ ตารางแสดงความสามารถในการ ยกเครน เราสามารถหาได้ทั่วไปซึ่ง ความสามารถ ในแต่ละยี่ห้อจะไม่ค่อยแตกต่างกันมาก >>แนะนำที่นี่<<
วิธีดูไม่ยากครับแนวแกนตั้งและแนวแกนนอน คือเงื่อนไข ที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการยก Load ของเครน
แนวแกนนอน = ระยะห่างระหว่าง Load กับดัวรถ ต้องดูจากสิ่งกีดขวางหรือสภาพหน้างาน ตำแหน่งการวาง Load และ รถเครน
แนวแกนตั้ง = ความสูงของแขนเครน (Boom) อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการยกชิ้นงานสูงแค่ไหน

พอเราหาได้แล้ว เราจะได้ Max Load หรือความสามารถสูงสุดที่เครนจะยกได้

ทีนี้เรามาดู Total Weight หรือ น้ำหนักรวม = น้ำหนักของ Load + น้ำหนัก อุปกรณ์ช่วยยก และอื่นๆ

Lifting capacity rate คือ อัตราส่วนความสามารถในการยกชิ้นงาน ต้องไม่เกิน 75%

Lifting capacity rate = Total Weight / Max Load หน่วยเป็น %

ยกตัวอย่าง

Total Weight = 28 Tons
Max Load = 45 Tons

Lifting capacity rate จะเท่ากับ 28/45 = 62% สามารถยกชิ้นงานชิ้นนี้ได้

Credit : thai-draftman.blogspot.com

รถเครนให้เช่า | ขายรถเครน | รถเครนรับจ้าง | สระว่ายน้ำ | สร้างสระว่ายน้ำ
| เช่ารถเครน | | ให้เช่ารถเครน

สัญญาณมือ เพื่อสื่อสารกับผู้ควบคุมเครน

ในการทำงานกับเครน ผู้ที่เป็น Rigger จำเป็นต้องทราบสัญญาณมือ ที่จะสื่อสารกับคนขับเครน โดยสัญญาณมือที่ใช้ จะต้องมีความเข้าใจที่ตรงกัน ระหว่างคนขับเครน และคนให้สัญญาณ


1. ยืดแขนบูม
กำมือทั้งสองข้าง ไว้ข้างหน้า หัวนิ้วโป้งชี้ออก





 2. หดแขนบูม
กำมือทั้ง 2 ข้าง ไว้ข้างหน้า หัวนิ้วโป้งทั้ง 2 อันชี้เข้าหากัน





 3.  สวิง
กางแขนพร้อมกับชี้นิ้วไปในทิศทางที่จะให้แขนบูมเคลื่อนไป




4. เคลื่อนช้าๆ
หมุนนิ้วอยู่ใต้ฝ่ามืออีกข้าง แสดงให้เห็นว่า หมุนรอกช้าๆ




5. แขนบูมลง
กางแขน และชี้หัวนิ้วโป้งลง




6. ยกแขนบูม
กางแขนออกให้หัวนิ้วโป้งชี้ขึ้น




7. ดึงสายขึ้น
ทำแขนงอเป็นมุมฉาก นิ้วชี้หมุนเป็นวงกลมในแนวระดับ




8. ปล่อยสายเคเบิลลง
แขนเอียงลงข้างล่าง นิ้วชี้หมุนเป็นวงกลม




9. หยุด
กางแขน และหงายฝ่ามือลง เคลื่อนแขนไปข้างหน้าและหลังในแนวระดับ
(หยุดฉุกเฉิน)





ทั้งหมดเป็นสัญญาณมาตรฐานสากลที่ใช้ควบคุมเครน

รถเครนให้เช่า | ขายรถเครน | รถเครนรับจ้าง | สระว่ายน้ำ | สร้างสระว่ายน้ำ
| เช่ารถเครน | | ให้เช่ารถเครน

การคำนวนความสามารถในการรับน้ำหนักของรถเครนด้วย Load Chart

เมื่อพูดถึงเรื่องความสามารถในการยกของรถเครน ก่อนอื่นต้องบอกให้เข้าใจก่อนว่า รถเครน จะรับน้ำหนักได้ต่างกันในการทำงานที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับ
- ระยะห่างระหว่างรถเครนกับวัตถุที่ยก ยิ่งระยะห่างกันมาก ความสามารถในการรับน้ำหนักของเครนก็จะลดลง
- ความยาวของแขนเครน ถ้าเครนยืดแขนออกมาก ความสามารถในการยกก็จะน้อยลง
- มุมระหว่างแขนเครนกับพื้นดิน ยิ่งมุมต่ำ ความสามารถในการยกก็จะน้อยลง (สอดคล้องกับเรื่องระยะห่างระหว่างแขนเครนกับของที่จะยก เพราะการนอนแขนเครนต่ำลงมา ก็เพื่อจะยกของที่ไกลออกไปนั่นเอง)
- การยืดขาเครน กรณีที่ยืดขาไม่สุด ความสามารถในการรับน้ำหนักก็ลดลง
เราจะคำนวนได้อย่างไร ว่าในแต่ละระยะห่างของการยก เครนจะยกของได้หนักเท่าไร
เราต้องดูจาก Load Chart (ตารางการรับน้ำหนักของรถเครน) ตารางนี้รถเครนทุกคันจะต้องมีติดอยู่ที่รถ ซึ่งเป็นตารางที่ออกโดยผู้ผลิด (ตารางของรถเครนต่างรุ่น หรือต่างยี่ห้อกัน ไม่สามารถใช้แทนกันได้ )
เพื่อให้เห็นวิธีการอ่านค่าจากตาราง load chart ขอนำตัวอย่างส่วนหนึ่งของ  load chart รถเครน ยี่ห้อ ทาดาโน รุ่น tr250m-5 มาให้ดู
crane load chart

จากตาราง load chart ข้างบน ผมยกมาแค่ส่วนหนึ่ง คือ กรณีที่เครนยืดขาสุด โดยปกติแล้ว ตารางคำนวนน้ำหนักนี้ จะแบ่งเป็นกรณีที่เครนยืดขาสุด ,กรณีที่ยืดขาออกมาบางส่วน ,กรณีที่ไม่ยืดขา เป็นต้น
ซึ่งเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ ในโครงการก่อสร้างมักจะกำหนดกฏระเบียบให้เครนต้องกางขาออกมาให้สุดทุกครั้ง ถ้าจำเป็นที่จะต้องกางขาไม่สุด จะต้องทำการขออนุญาตก่อน
จากตาราง load chart ข้างบน ผมตัดมาให้ดูเฉพาะกรณีที่รถเครนยืดขาออกมาสุดทุกข้าง (ดูได้จากที่ผมทำกรอบสีเหลืองไว้ ตรงนั้นจะบอกให้ทราบ
- ที่ช่อง A(m) ที่ผมทำกรอบสีชมพูไว้ คือความยาวของแขนเครน (แขนเครน เรามักเรียกทับศัพท์กันว่า บูม) มีหน่วยเป็นเมตร ตัวเลข 9.5m ,16.5 , 23.5m และ 30.5M คือความยาวเมื่อยืดแขนเครนแต่ละท่อนออกมา
- ที่ช่อง B(m) ที่ผมทำกรอบสีน้ำเงินไว้ หรือระยะห่างจากจุดศูนย์กลางของรถเครน ไปยังวัตถุที่ยก มีหน่วยเป็นเมตร
ดังนั้น ถ้าท่านอยากทราบว่าในกรณีที่เครนยืดขาออกมาสุด แล้วต้องการยกของที่ห่างจุดศูนย์กลางของรถเครน 5 เมตร ที่ความยาวบูม 16.5 เมตร จะยกของหนักได้เท่าไร เมื่อดูจากตารางจะทราบได้ทันทีว่า รับน้ำหนักได้ไม่เกิน  16.7 ตัน
ส่วนตารางฝั่งขวามือ คือ กรณีที่เคนทำการต่อจิ๊บ(Fly Jib Boom) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการเพิ่มความยาวของแขนเครน ใช้กรณีที่ต้องยกของที่ความสูงมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผลเสียของการต่อจิ๊บก็จะทำให้ความสามารถในการยกลดลงมาก เช่นกัีน
- ช่อง C ความยาวของจิ๊บ จะมี 2 ขนาด คือ จิ๊บ ยาว 8 เมตร และ 13 เมตร
- ช่อง D คือ องศาของจิ๊บ กับแขนเครน (จิ๊บที่ต่อยาวจากแขนเครน จะไม่อยู่ในลักษณะยาวตรงดิ่งออกไปในระนาบเดียวกัน แต่จะทำมุม 5 องศา ,25 องศา หรือ 45 องศา
- ช่อง  E คือมุมของแขนเครนกับพื้น (อาจดูได้จากด้านข้างแขนเครน จะมีเข็มบอกมุมของแขนเครนว่าทำมุมเท่าไร)
ดังนั้น ถ้าเครนต่อจิ๊บยาว 8 เมตร โดยจิ๊บทำมุม 5 องศากับแขนเครน และแขนเครนทำมุม 70 องศากับพื้น เราจะทราบได้ทันทีว่า เครนสามารถรับน้ำหนักได้ที่  2.8 ตัน
ก็เป็นตัวอย่างในการอ่านค่าจากตาราง load chart คร่าวๆ ครับ
ปล. อย่าลืม ว่าปัจจัยในการรับน้ำหนักของรถเครนไม่ได้มีแค่ปัจจัยภายในเท่านั้น ยังมีปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น สภาพพื้นดิน สภาพอากาศ(ลม) เป็นต้น

Credit : thaisafetywork.com

รถเครนให้เช่า | ขายรถเครน | รถเครนรับจ้าง | สระว่ายน้ำ | สร้างสระว่ายน้ำ
| เช่ารถเครน | ให้เช่ารถเครน | รถเครนรับจ้าง |