นอกเรื่องกันหน่อย 5555
น้องมันแกว รุ้งตะวัน ชัยหา สาวสวยเซ็กซี่ เป็นที่โด่งดังในอินเตอร์เน็ต เมื่อโพสต์ภาพแนวเซ็กซี่ จนมีคนติดตามกันอย่างล้นหลาม
โดย
น้องมันแกว ทำงานอยู่บริษัท playcybergames
จัดรายการเกมส์ออนไลน์ทางเว็บไซต์ ชวนให้คนมาเล่นเกมส์ใหม่ๆ ของทางบริษัท
นั่นจึงเป็นช่องทางที่ผู้เล่นได้เห็นโฉมหน้าของเธอ
ไม่ว่าจะเป็นภาพเซ็กส์ซี่ และอิริยาบถต่างๆ
โทร.094-693-5422,บริการให้เช่ารถเครน,รถเครนรับจ้าง,รถเครน,เช่ารถเครน,รถเครนให้เช่า,ขายรถเครน,รถเครนมือสอง,รายวัน รายเดือน,20 - 50 ตัน,4-12 ล้อ
โทร.094-693-5422, ให้เช่ารถเครน, เช่ารถเครน, รถเครนให้เช่า, รถเครนรับจ้าง
รายวัน/เดือน , 20 - 50 ตัน , 4-12 ล้อ
โทร.O87-978O28O, 09-4693-5422
การคำนวณ Load เพื่อเลือกเครนในการยก
Load Chart หรือ ตารางแสดงความสามารถในการ ยกเครน เราสามารถหาได้ทั่วไปซึ่ง ความสามารถ ในแต่ละยี่ห้อจะไม่ค่อยแตกต่างกันมาก >>แนะนำที่นี่<<
วิธีดูไม่ยากครับแนวแกนตั้งและแนวแกนนอน คือเงื่อนไข ที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการยก Load ของเครน
แนวแกนนอน = ระยะห่างระหว่าง Load กับดัวรถ ต้องดูจากสิ่งกีดขวางหรือสภาพหน้างาน ตำแหน่งการวาง Load และ รถเครน
แนวแกนตั้ง = ความสูงของแขนเครน (Boom) อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการยกชิ้นงานสูงแค่ไหน
พอเราหาได้แล้ว เราจะได้ Max Load หรือความสามารถสูงสุดที่เครนจะยกได้
ทีนี้เรามาดู Total Weight หรือ น้ำหนักรวม = น้ำหนักของ Load + น้ำหนัก อุปกรณ์ช่วยยก และอื่นๆ
Lifting capacity rate คือ อัตราส่วนความสามารถในการยกชิ้นงาน ต้องไม่เกิน 75%
Lifting capacity rate = Total Weight / Max Load หน่วยเป็น %
ยกตัวอย่าง
Total Weight = 28 Tons
Max Load = 45 Tons
Lifting capacity rate จะเท่ากับ 28/45 = 62% สามารถยกชิ้นงานชิ้นนี้ได้
Credit : thai-draftman.blogspot.com
รถเครนให้เช่า | ขายรถเครน | รถเครนรับจ้าง | สระว่ายน้ำ | สร้างสระว่ายน้ำ
| เช่ารถเครน | | ให้เช่ารถเครน
สัญญาณมือ เพื่อสื่อสารกับผู้ควบคุมเครน
ในการทำงานกับเครน ผู้ที่เป็น Rigger จำเป็นต้องทราบสัญญาณมือ
ที่จะสื่อสารกับคนขับเครน โดยสัญญาณมือที่ใช้ จะต้องมีความเข้าใจที่ตรงกัน
ระหว่างคนขับเครน และคนให้สัญญาณ
1. ยืดแขนบูม
กำมือทั้งสองข้าง ไว้ข้างหน้า หัวนิ้วโป้งชี้ออก
2. หดแขนบูม
กำมือทั้ง 2 ข้าง ไว้ข้างหน้า หัวนิ้วโป้งทั้ง 2 อันชี้เข้าหากัน
3. สวิง
กางแขนพร้อมกับชี้นิ้วไปในทิศทางที่จะให้แขนบูมเคลื่อนไป
4. เคลื่อนช้าๆ
หมุนนิ้วอยู่ใต้ฝ่ามืออีกข้าง แสดงให้เห็นว่า หมุนรอกช้าๆ
5. แขนบูมลง
กางแขน และชี้หัวนิ้วโป้งลง
6. ยกแขนบูม
กางแขนออกให้หัวนิ้วโป้งชี้ขึ้น
7. ดึงสายขึ้น
ทำแขนงอเป็นมุมฉาก นิ้วชี้หมุนเป็นวงกลมในแนวระดับ
8. ปล่อยสายเคเบิลลง
แขนเอียงลงข้างล่าง นิ้วชี้หมุนเป็นวงกลม
9. หยุด
กางแขน และหงายฝ่ามือลง เคลื่อนแขนไปข้างหน้าและหลังในแนวระดับ
(หยุดฉุกเฉิน)
ทั้งหมดเป็นสัญญาณมาตรฐานสากลที่ใช้ควบคุมเครน
รถเครนให้เช่า | ขายรถเครน | รถเครนรับจ้าง | สระว่ายน้ำ | สร้างสระว่ายน้ำ
| เช่ารถเครน | | ให้เช่ารถเครน
1. ยืดแขนบูม
กำมือทั้งสองข้าง ไว้ข้างหน้า หัวนิ้วโป้งชี้ออก
2. หดแขนบูม
กำมือทั้ง 2 ข้าง ไว้ข้างหน้า หัวนิ้วโป้งทั้ง 2 อันชี้เข้าหากัน
3. สวิง
กางแขนพร้อมกับชี้นิ้วไปในทิศทางที่จะให้แขนบูมเคลื่อนไป
4. เคลื่อนช้าๆ
หมุนนิ้วอยู่ใต้ฝ่ามืออีกข้าง แสดงให้เห็นว่า หมุนรอกช้าๆ
5. แขนบูมลง
กางแขน และชี้หัวนิ้วโป้งลง
6. ยกแขนบูม
กางแขนออกให้หัวนิ้วโป้งชี้ขึ้น
7. ดึงสายขึ้น
ทำแขนงอเป็นมุมฉาก นิ้วชี้หมุนเป็นวงกลมในแนวระดับ
8. ปล่อยสายเคเบิลลง
แขนเอียงลงข้างล่าง นิ้วชี้หมุนเป็นวงกลม
9. หยุด
กางแขน และหงายฝ่ามือลง เคลื่อนแขนไปข้างหน้าและหลังในแนวระดับ
(หยุดฉุกเฉิน)
ทั้งหมดเป็นสัญญาณมาตรฐานสากลที่ใช้ควบคุมเครน
รถเครนให้เช่า | ขายรถเครน | รถเครนรับจ้าง | สระว่ายน้ำ | สร้างสระว่ายน้ำ
| เช่ารถเครน | | ให้เช่ารถเครน
การคำนวนความสามารถในการรับน้ำหนักของรถเครนด้วย Load Chart
เมื่อพูดถึงเรื่องความสามารถในการยกของรถเครน
ก่อนอื่นต้องบอกให้เข้าใจก่อนว่า รถเครน จะรับน้ำหนักได้ต่างกันในการทำงานที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับ
- ระยะห่างระหว่างรถเครนกับวัตถุที่ยก ยิ่งระยะห่างกันมาก ความสามารถในการรับน้ำหนักของเครนก็จะลดลง
- ความยาวของแขนเครน ถ้าเครนยืดแขนออกมาก ความสามารถในการยกก็จะน้อยลง
- มุมระหว่างแขนเครนกับพื้นดิน ยิ่งมุมต่ำ ความสามารถในการยกก็จะน้อยลง (สอดคล้องกับเรื่องระยะห่างระหว่างแขนเครนกับของที่จะยก เพราะการนอนแขนเครนต่ำลงมา ก็เพื่อจะยกของที่ไกลออกไปนั่นเอง)
- การยืดขาเครน กรณีที่ยืดขาไม่สุด ความสามารถในการรับน้ำหนักก็ลดลง
เราจะคำนวนได้อย่างไร ว่าในแต่ละระยะห่างของการยก เครนจะยกของได้หนักเท่าไร
เราต้องดูจาก Load Chart (ตารางการรับน้ำหนักของรถเครน) ตารางนี้รถเครนทุกคันจะต้องมีติดอยู่ที่รถ ซึ่งเป็นตารางที่ออกโดยผู้ผลิด (ตารางของรถเครนต่างรุ่น หรือต่างยี่ห้อกัน ไม่สามารถใช้แทนกันได้ )
เพื่อให้เห็นวิธีการอ่านค่าจากตาราง load chart ขอนำตัวอย่างส่วนหนึ่งของ load chart รถเครน ยี่ห้อ ทาดาโน รุ่น tr250m-5 มาให้ดู
จากตาราง load chart ข้างบน ผมยกมาแค่ส่วนหนึ่ง คือ กรณีที่เครนยืดขาสุด โดยปกติแล้ว ตารางคำนวนน้ำหนักนี้ จะแบ่งเป็นกรณีที่เครนยืดขาสุด ,กรณีที่ยืดขาออกมาบางส่วน ,กรณีที่ไม่ยืดขา เป็นต้น
ซึ่งเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ ในโครงการก่อสร้างมักจะกำหนดกฏระเบียบให้เครนต้องกางขาออกมาให้สุดทุกครั้ง ถ้าจำเป็นที่จะต้องกางขาไม่สุด จะต้องทำการขออนุญาตก่อน
จากตาราง load chart ข้างบน ผมตัดมาให้ดูเฉพาะกรณีที่รถเครนยืดขาออกมาสุดทุกข้าง (ดูได้จากที่ผมทำกรอบสีเหลืองไว้ ตรงนั้นจะบอกให้ทราบ
- ที่ช่อง A(m) ที่ผมทำกรอบสีชมพูไว้ คือความยาวของแขนเครน (แขนเครน เรามักเรียกทับศัพท์กันว่า บูม) มีหน่วยเป็นเมตร ตัวเลข 9.5m ,16.5 , 23.5m และ 30.5M คือความยาวเมื่อยืดแขนเครนแต่ละท่อนออกมา
- ที่ช่อง B(m) ที่ผมทำกรอบสีน้ำเงินไว้ หรือระยะห่างจากจุดศูนย์กลางของรถเครน ไปยังวัตถุที่ยก มีหน่วยเป็นเมตร
ดังนั้น ถ้าท่านอยากทราบว่าในกรณีที่เครนยืดขาออกมาสุด แล้วต้องการยกของที่ห่างจุดศูนย์กลางของรถเครน 5 เมตร ที่ความยาวบูม 16.5 เมตร จะยกของหนักได้เท่าไร เมื่อดูจากตารางจะทราบได้ทันทีว่า รับน้ำหนักได้ไม่เกิน 16.7 ตัน
ส่วนตารางฝั่งขวามือ คือ กรณีที่เคนทำการต่อจิ๊บ(Fly Jib Boom) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการเพิ่มความยาวของแขนเครน ใช้กรณีที่ต้องยกของที่ความสูงมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผลเสียของการต่อจิ๊บก็จะทำให้ความสามารถในการยกลดลงมาก เช่นกัีน
- ช่อง C ความยาวของจิ๊บ จะมี 2 ขนาด คือ จิ๊บ ยาว 8 เมตร และ 13 เมตร
- ช่อง D คือ องศาของจิ๊บ กับแขนเครน (จิ๊บที่ต่อยาวจากแขนเครน จะไม่อยู่ในลักษณะยาวตรงดิ่งออกไปในระนาบเดียวกัน แต่จะทำมุม 5 องศา ,25 องศา หรือ 45 องศา
- ช่อง E คือมุมของแขนเครนกับพื้น (อาจดูได้จากด้านข้างแขนเครน จะมีเข็มบอกมุมของแขนเครนว่าทำมุมเท่าไร)
ดังนั้น ถ้าเครนต่อจิ๊บยาว 8 เมตร โดยจิ๊บทำมุม 5 องศากับแขนเครน และแขนเครนทำมุม 70 องศากับพื้น เราจะทราบได้ทันทีว่า เครนสามารถรับน้ำหนักได้ที่ 2.8 ตัน
ก็เป็นตัวอย่างในการอ่านค่าจากตาราง load chart คร่าวๆ ครับ
ปล. อย่าลืม ว่าปัจจัยในการรับน้ำหนักของรถเครนไม่ได้มีแค่ปัจจัยภายในเท่านั้น ยังมีปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น สภาพพื้นดิน สภาพอากาศ(ลม) เป็นต้น
Credit : thaisafetywork.com
รถเครนให้เช่า | ขายรถเครน | รถเครนรับจ้าง | สระว่ายน้ำ | สร้างสระว่ายน้ำ
| เช่ารถเครน | ให้เช่ารถเครน | รถเครนรับจ้าง |
- ระยะห่างระหว่างรถเครนกับวัตถุที่ยก ยิ่งระยะห่างกันมาก ความสามารถในการรับน้ำหนักของเครนก็จะลดลง
- ความยาวของแขนเครน ถ้าเครนยืดแขนออกมาก ความสามารถในการยกก็จะน้อยลง
- มุมระหว่างแขนเครนกับพื้นดิน ยิ่งมุมต่ำ ความสามารถในการยกก็จะน้อยลง (สอดคล้องกับเรื่องระยะห่างระหว่างแขนเครนกับของที่จะยก เพราะการนอนแขนเครนต่ำลงมา ก็เพื่อจะยกของที่ไกลออกไปนั่นเอง)
- การยืดขาเครน กรณีที่ยืดขาไม่สุด ความสามารถในการรับน้ำหนักก็ลดลง
เราจะคำนวนได้อย่างไร ว่าในแต่ละระยะห่างของการยก เครนจะยกของได้หนักเท่าไร
เราต้องดูจาก Load Chart (ตารางการรับน้ำหนักของรถเครน) ตารางนี้รถเครนทุกคันจะต้องมีติดอยู่ที่รถ ซึ่งเป็นตารางที่ออกโดยผู้ผลิด (ตารางของรถเครนต่างรุ่น หรือต่างยี่ห้อกัน ไม่สามารถใช้แทนกันได้ )
เพื่อให้เห็นวิธีการอ่านค่าจากตาราง load chart ขอนำตัวอย่างส่วนหนึ่งของ load chart รถเครน ยี่ห้อ ทาดาโน รุ่น tr250m-5 มาให้ดู
จากตาราง load chart ข้างบน ผมยกมาแค่ส่วนหนึ่ง คือ กรณีที่เครนยืดขาสุด โดยปกติแล้ว ตารางคำนวนน้ำหนักนี้ จะแบ่งเป็นกรณีที่เครนยืดขาสุด ,กรณีที่ยืดขาออกมาบางส่วน ,กรณีที่ไม่ยืดขา เป็นต้น
ซึ่งเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ ในโครงการก่อสร้างมักจะกำหนดกฏระเบียบให้เครนต้องกางขาออกมาให้สุดทุกครั้ง ถ้าจำเป็นที่จะต้องกางขาไม่สุด จะต้องทำการขออนุญาตก่อน
จากตาราง load chart ข้างบน ผมตัดมาให้ดูเฉพาะกรณีที่รถเครนยืดขาออกมาสุดทุกข้าง (ดูได้จากที่ผมทำกรอบสีเหลืองไว้ ตรงนั้นจะบอกให้ทราบ
- ที่ช่อง A(m) ที่ผมทำกรอบสีชมพูไว้ คือความยาวของแขนเครน (แขนเครน เรามักเรียกทับศัพท์กันว่า บูม) มีหน่วยเป็นเมตร ตัวเลข 9.5m ,16.5 , 23.5m และ 30.5M คือความยาวเมื่อยืดแขนเครนแต่ละท่อนออกมา
- ที่ช่อง B(m) ที่ผมทำกรอบสีน้ำเงินไว้ หรือระยะห่างจากจุดศูนย์กลางของรถเครน ไปยังวัตถุที่ยก มีหน่วยเป็นเมตร
ดังนั้น ถ้าท่านอยากทราบว่าในกรณีที่เครนยืดขาออกมาสุด แล้วต้องการยกของที่ห่างจุดศูนย์กลางของรถเครน 5 เมตร ที่ความยาวบูม 16.5 เมตร จะยกของหนักได้เท่าไร เมื่อดูจากตารางจะทราบได้ทันทีว่า รับน้ำหนักได้ไม่เกิน 16.7 ตัน
ส่วนตารางฝั่งขวามือ คือ กรณีที่เคนทำการต่อจิ๊บ(Fly Jib Boom) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการเพิ่มความยาวของแขนเครน ใช้กรณีที่ต้องยกของที่ความสูงมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผลเสียของการต่อจิ๊บก็จะทำให้ความสามารถในการยกลดลงมาก เช่นกัีน
- ช่อง C ความยาวของจิ๊บ จะมี 2 ขนาด คือ จิ๊บ ยาว 8 เมตร และ 13 เมตร
- ช่อง D คือ องศาของจิ๊บ กับแขนเครน (จิ๊บที่ต่อยาวจากแขนเครน จะไม่อยู่ในลักษณะยาวตรงดิ่งออกไปในระนาบเดียวกัน แต่จะทำมุม 5 องศา ,25 องศา หรือ 45 องศา
- ช่อง E คือมุมของแขนเครนกับพื้น (อาจดูได้จากด้านข้างแขนเครน จะมีเข็มบอกมุมของแขนเครนว่าทำมุมเท่าไร)
ดังนั้น ถ้าเครนต่อจิ๊บยาว 8 เมตร โดยจิ๊บทำมุม 5 องศากับแขนเครน และแขนเครนทำมุม 70 องศากับพื้น เราจะทราบได้ทันทีว่า เครนสามารถรับน้ำหนักได้ที่ 2.8 ตัน
ก็เป็นตัวอย่างในการอ่านค่าจากตาราง load chart คร่าวๆ ครับ
ปล. อย่าลืม ว่าปัจจัยในการรับน้ำหนักของรถเครนไม่ได้มีแค่ปัจจัยภายในเท่านั้น ยังมีปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น สภาพพื้นดิน สภาพอากาศ(ลม) เป็นต้น
Credit : thaisafetywork.com
รถเครนให้เช่า | ขายรถเครน | รถเครนรับจ้าง | สระว่ายน้ำ | สร้างสระว่ายน้ำ
| เช่ารถเครน | ให้เช่ารถเครน | รถเครนรับจ้าง |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)